ข้อความข้อผิดพลาด "บริการ Windows Installer ไม่สามารถเข้าถึง" เมื่อคุณพยายามติดตั้ง Office

หมายเลขบทความ (Article ID): 324516 - ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในบทความนี้
แปลโดยคอมพิวเตอร์คลิกที่นี่เพื่อดูข้อจำกัดความรับผิดชอบของ KB ที่แปลโดยคอมพิวเตอร์
ขยายทั้งหมด | ยุบทั้งหมด

เนื้อหาบนหน้านี้

อาการ

เมื่อคุณพยายามติดตั้ง Microsoft Office คุณอาจได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาดที่คล้ายกับข้อความต่อไปนี้:
ไม่สามารถเข้าถึงบริการ Windows Installer
กลับไปด้านบน | ให้ข้อเสนอแนะ

สาเหตุ

ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นหากแฟ้ม Windows Installer เสียหาย หรือสูญหายไป
กลับไปด้านบน | ให้ข้อเสนอแนะ

การแก้ไข

เมื่อต้องการแก้ไขปัญหา ให้ใช้วิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

วิธีที่ 1: ใช้เครื่องมือ Msconfig เพื่อยืนยันว่า กำลังเรียกใช้โปรแกรมติดตั้งบริการ

  1. คลิกเริ่มการทำงานแล้ว คลิกเรียกใช้.

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    เมนู Start


  2. ในการOPENกล่อง ชนิดmsconfigแล้ว คลิกตกลง.

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    เปิดกล่องโต้ตอบ


  3. ในการบริการแท็บ คลิกเพื่อเลือกกล่องกาเครื่องหมายที่อยู่ถัดไปWindows Installer.

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    กล่องโต้ตอบยูทิลิตี้การตั้งค่าคอนฟิกระบบ


  4. คลิกตกลงแล้ว คลิกเริ่มต้นใหม่เมื่อต้องการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    กล่องโต้ตอบการตั้งค่าคอนฟิกของระบบ


  5. ติดตั้ง Office อีกครั้ง เมื่อคุณได้รับการพร้อมท์ให้ใส่รหัสผลิตภัณฑ์ พิมพ์หมายเลขผลิตภัณฑ์ และคลิกถัดไป.
จะมีการติดตั้ง office และคุณจะไม่ได้รับพร้อมท์สำหรับหมายเลขผลิตภัณฑ์เมื่อเริ่มโปรแกรม

วิธีที่ 2: Re-register Windows Installer

สิ่งสำคัญนี้ส่วน วิธี หรืองานประกอบด้วยขั้นตอนที่บอกวิธีการแก้ไขรีจิสทรี อย่างไรก็ตาม ปัญหาร้ายแรงอาจเกิดขึ้นหากคุณปรับเปลี่ยนรีจิสทรีไม่ถูกต้อง ดังนั้น โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างระมัดระวัง สำหรับการป้องกันเพิ่มเติม ให้สำรองรีจิสทรีก่อนทำการปรับเปลี่ยน เพื่อที่คุณจะสามารถคืนค่ารีจิสทรีได้หากมีปัญหาเกิดขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการสำรองข้อมูลและคืนค่ารีจิสทรี โปรดคลิกที่หมายเลขบทความต่อไปนี้ เพื่อดูบทความในฐานความรู้ของ Microsoft::
322756
(http://support.microsoft.com/kb/322756/ )
วิธีการสำรองข้อมูลและคืนค่ารีจิสทรีใน Windows


หมายเหตุ:เนื่องจากมี Microsoft Windows หลายรุ่น ขั้นตอนต่อไปนี้จึงอาจแตกต่างกันสำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ หากเป็นเช่นนั้น ให้ดูคู่มือผลิตภัณฑ์ของคุณเพื่อทำตามขั้นตอนนี้ให้สำเร็จ

เมื่อต้องการลงทะเบียนใหม่โปรแกรมติดตั้ง Windows ทำตามขั้นตอนเหล่านี้

หมายเหตุ:หากคุณไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้ ไปที่วิธีที่ 3
  1. คลิกเริ่มการทำงานแล้ว คลิกค้นหา.

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    เมนู Start


  2. คลิกแฟ้มและโฟลเดอร์ทั้งหมด.

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    ฟอร์มการค้นหา


  3. ในการชื่อแฟ้มกล่อง ชนิดmsiexec.exeแล้ว คลิกค้นหา.

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    ฟอร์มการค้นหา


  4. หลังจากการค้นหาเสร็จสมบูรณ์ ทำการบันทึกย่อของที่ตั้งของแฟ้ม Msiexec.exe ตำแหน่งที่ตั้งของแฟ้มควรจะเหมือนกับตัวอย่างต่อไปนี้:
    C:\Windows\System32


    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    แบบฟอร์มผลลัพธ์การค้นหา


  5. ในการแฟ้ม:เมนู คลิกปิดเมื่อต้องการปิดการค้นหากล่องโต้ตอบกล่อง

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    เมนูแฟ้ม


  6. คลิกเริ่มการทำงานแล้ว คลิกเรียกใช้.

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    เมนู Start


  7. ในการOPENกล่อง ชนิดregeditแล้ว คลิกตกลง.

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    เปิดกล่องโต้ตอบ


  8. ค้นหาและคลิกที่คีย์รีจิสทรีต่อไปนี้::
    HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Services\MSIServer


    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    ตัวแก้ไขรีจิสทรี


  9. ในบานหน้าต่างด้านขวาของหน้าต่างตัวแก้ไขรีจิสทรี คลิกสองครั้งImagePath.

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    เปิดกล่องโต้ตอบ


  10. ในการแก้ไขสายอักขระกล่องโต้ตอบที่ปรากฏ ใจว่าสายอักขระในการข้อมูลค่า:กล่องประกอบด้วยเส้นทางที่ถูกต้องสำหรับแฟ้ม Msiexec.exe ที่คุณได้ระบุในขั้นตอนที่ 4

    หมายเหตุ:ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของเส้นทางที่ถูกต้อง ที่ใดไดรฟ์คือไดรฟ์ที่ติดตั้ง Windows:
    ไดรฟ์: \Windows\System32\msiexec.exe /V


    ถ้าการข้อมูลค่า:กล่องไม่ประกอบด้วยเส้นทางที่ถูกต้อง ทำการเปลี่ยนแปลง การเส้นทางแก้ไข แล้ว คลิกตกลงเมื่อต้องการปิดการแก้ไขสายอักขระกล่องโต้ตอบกล่อง

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    เปิดกล่องโต้ตอบ


  11. ในการแฟ้ม:เมนู คลิกexitเมื่อต้องการปิดตัวแก้ไขรีจิสทรี

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    เมนูแฟ้ม


  12. เริ่มคอมพิวเตอร์ในเซฟโหมด แล้วรีจิสเตอร์แฟ้ม Msiexec.exe โดยให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้::
    1. ปิดคอมพิวเตอร์ของคุณ แล้ว รีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ
    2. รีสตาร์ตคอมพิวเตอร์ของคุณ และกดปุ่ม f8 บนแป้นพิมพ์ของคุณ บนคอมพิวเตอร์ที่มีการกำหนดค่าสำหรับการเริ่มระบบเพื่อใช้ระบบปฏิบัติการหลายระบบ กดปุ่ม f8 เมื่อคุณดูBOOTเมนู
    3. ใช้แป้นลูกศรเพื่อเลือกSafe Modeแล้ว กด ENTER
    4. ถ้าการBOOTเมนูปรากฏขึ้นอีกครั้ง และเลือกการติดตั้งที่คุณต้องการเริ่มต้น คำว่า "เซฟโหมด" ปรากฏในสีน้ำเงินที่ด้านล่าง และกด enter
    5. ล็อกอินกลับเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
    6. คลิกเริ่มการทำงานคลิกเรียกใช้ประเภท:msiexec /regserverในการOPENกล่อง แล้วคลิกตกลง.

      ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
      เปิดกล่องโต้ตอบ


  13. ปิดคอมพิวเตอร์ของคุณ แล้ว รีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณตามปกติ
หากไม่คุณยังคงสามารถติดตั้ง Microsoft Office สมบูรณ์ และคุณได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาดที่คล้ายกับข้อความที่ระบุไว้ในส่วน "อาการ" ไปที่วิธีที่ 3

วิธีที่ 3: ลองวิธีที่แสดงใน 319624 บทความฐานความรู้ของ Microsoft

ลองใช้วิธีการที่ระบุไว้ในบทความฐานความรู้ของ Microsoft ต่อไปนี้:
319624
(http://support.microsoft.com/kb/319624/ )
ข้อความแสดงข้อผิดพลาด "ไม่สามารถเข้าถึงบริการ Windows Installer" เมื่อติดตั้งโปรแกรมประยุกต์

วิธีที่ 4: Windows Installer ที่ติดตั้งใหม่

หมายเหตุ:วิธีนี้ใช้กับ Microsoft Windows 95, Microsoft Windows 98, Microsoft Windows Millennium Edition (Me) และ Microsoft Windows NT 4.0 สำหรับ Microsoft Windows 2000, Microsoft Windows XP และ Microsoft Windows Server 2003 เซอร์วิสแพ็คล่าสุดที่นำไปใช้ใหม่ หรือซ่อมแซมระบบปฏิบัติการ

เมื่อต้องการติดตั้ง Windows Installer ทำตามขั้นตอนเหล่านี้

  1. คลิกเริ่มการทำงานแล้ว คลิกเรียกใช้.

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    เมนู Start


  2. ในการOPENกล่อง ชนิดcmdแล้ว คลิกตกลง.

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    เปิดกล่องโต้ตอบ


  3. ที่คอมมานด์พร้อมต์ ให้พิมพ์ตามนี้ กด ENTER หลังจากที่คุณพิมพ์แต่ละบรรทัด
    %windir%\system32 ซีดี

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    หน้าต่าง 'พรอมต์คำสั่ง'


    ren msi.dll msi.old

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    หน้าต่าง 'พรอมต์คำสั่ง'


    ren msiexec.exe msiexec.old

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    หน้าต่าง 'พรอมต์คำสั่ง'



    ren msihnd.dll msihnd.old

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    หน้าต่าง 'พรอมต์คำสั่ง'



  4. ที่พรอมต์คำสั่ง พิมพ์:exitแล้ว กด ENTER

    ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
    หน้าต่าง 'พรอมต์คำสั่ง'


  5. รีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์
  6. ปรับปรุงแฟ้มตัวติดตั้ง Windows ไปเป็นรุ่นล่าสุด เมื่อต้องการทำเช่นนั้น แวะไปที่หนึ่งในต่อไปนี้เว็บไซต์ของ Microsoft แล้ว มีดาวน์โหลด และติดตั้ง Windows Installer 2.0

    หมายเหตุ:windows Installer 2.0 มีอยู่ใน Microsoft Windows XP คุณไม่ต้องดำเนินการขั้นตอนนี้ถ้าคุณกำลังใช้ Windows XP
  7. หลังจากการติดตั้ง Windows Installer เสร็จสมบูรณ์ ปิด และเริ่มต้นคอมพิวเตอร์ใหม่โดยปกติก่อนที่คุณติดตั้ง Microsoft Office
กลับไปด้านบน | ให้ข้อเสนอแนะ

ข้อมูลเพิ่มเติม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเริ่มระบบ Windows ใหม่ในเซฟโหมด คลิกหมายเลขบทความต่อไปนี้เพื่อดูบทความในฐานความรู้ของ Microsoft:
315222
(http://support.microsoft.com/kb/315222/ )
คำอธิบายของตัวเลือกการเริ่มต้นระบบเซฟโหมดใน Windows XP
281770
(http://support.microsoft.com/kb/281770/ )
วิธีการแก้ไขปัญหาด้วยการคลีนบูตสำหรับ Windows 2000
273738
(http://support.microsoft.com/kb/273738/ )
วิธีการแก้ไขปัญหาการเริ่มต้น Windows Millennium Edition
180902
(http://support.microsoft.com/kb/180902/ )
วิธีการเริ่มการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows 98 ในเซฟโหมด
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการขอรับ Windows Installer โปรดคลิกที่หมายเลขบทความต่อไปนี้ เพื่อดูบทความในฐานความรู้ของ Microsoft::
292539
(http://support.microsoft.com/kb/292539/ )
เกี่ยวกับวิธีการโหลดเอนจิน Windows Installer
กลับไปด้านบน | ให้ข้อเสนอแนะ

คุณสมบัติ

หมายเลขบทความ (Article ID): 324516 - รีวิวครั้งสุดท้าย: 16 กันยายน 2554 - Revision: 4.0
ใช้กับ
  • Microsoft Office Professional 2007
  • Microsoft Office Ultimate 2007
  • Microsoft Office Basic 2007
  • Microsoft Office Standard 2007
  • Microsoft Office Enterprise 2007
  • Microsoft Office Professional Plus 2007
  • Microsoft Office Professional Edition 2003
  • Microsoft Office Basic Edition 2003
  • Microsoft Office Small Business Edition 2003
  • Microsoft Office XP Developer Edition
  • Microsoft Office XP Professional Edition
  • Microsoft Office XP Small Business Edition
  • Microsoft Office XP Standard Edition
  • Microsoft Office 2000 Developer Edition
  • Microsoft Office 2000 Premium Edition
  • Microsoft Office 2000 Professional Edition
  • Microsoft Office 2000 Small Business Edition
  • Microsoft Office 2000 Standard Edition
Keywords: 
kbnomt kbgraphxlink kbscreenshot kbPubTypeKC kbtshoot kberrmsg kbprb kbmt KB324516 KbMtth
แปลโดยคอมพิวเตอร์
ข้อมูลสำคัญ: บทความนี้แปลโดยซอฟต์แวร์การแปลด้วยคอมพิวเตอร์ของ Microsoft แทนที่จะเป็นนักแปลที่เป็นบุคคล Microsoft มีบทความที่แปลโดยนักแปลและบทความที่แปลด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงบทความทั้งหมดในฐานความรู้ของเรา ในภาษาของคุณเอง อย่างไรก็ตาม บทความที่แปลด้วยคอมพิวเตอร์นั้นอาจมีข้อบกพร่อง โดยอาจมีข้อผิดพลาดในคำศัพท์ รูปแบบการใช้ภาษาและไวยากรณ์ เช่นเดียวกับกรณีที่ชาวต่างชาติพูดผิดเมื่อพูดภาษาของคุณ Microsoft ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อความคลาดเคลื่อน ความผิดพลาดหรือความเสียหายที่เกิดจากการแปลเนื้อหาผิดพลาด หรือการใช้บทแปลของลูกค้า และ Microsoft มีการปรับปรุงซอฟต์แวร์การแปลด้วยคอมพิวเตอร์อยู่เป็นประจำ
ต่อไปนี้เป็นฉบับภาษาอังกฤษของบทความนี้:324516
(http://support.microsoft.com/kb/324516/en-us/ )
กลับไปด้านบน | ให้ข้อเสนอแนะ

ให้ข้อเสนอแนะ

 
กลับไปด้านบนกลับไปด้านบน