ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นหากการปรับปรุงยังไม่ได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้องในครั้งแรก หรือหากการตั้งค่า Windows Update ของคุณไม่พบการปรับปรุง
โปรดเลือกระบบปฏิบัติการของคุณสำหรับขั้นตอนที่เหมาะสม
Windows 8
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
ตรวจสอบว่าการปรับปรุงได้รับการติดตั้งแล้วหรือไม่
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
เมื่อต้องการดูว่าการปรับปรุงได้รับการติดตั้งแล้วหรือไม่ ให้ใช้วิธีการต่อไปนี้
ตรวจสอบประวัติการติดตั้งเมื่อต้องการตรวจทานประวัติการติดตั้ง ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- ปัดนิ้วจากด้านขวาหรือกดปุ่ม Windows + C จากนั้นแตะหรือคลิก ค้นหา charm
- พิมพ์ Windows Update ในค้นหา แตะหรือคลิก การตั้งค่า
- แตะหรือคลิก ดู ประวัติการปรับปรุง
- ค้นหารายการการปรับปรุงล่าสุด
- หากสถานะรายการแสดงเป็น สำเร็จ ในคอลัมน์ สถานะ แสดงว่าการปรับปรุงถูกติดตั้งแล้ว หากสถานะแสดงเป็น ค้างอยู่ ในคอลัมน์ สถานะ แสดงว่าการปรับปรุงยังไม่ถูกติดตั้ง
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
เรียกใช้ตัวแก้ไขปัญหาของ Windows Update
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
เรียกใช้ตัวแก้ไขปัญหาของ Windows Update เพื่อแก้ไขปัญหาทั่วไปโดยอัตโนมัติที่เกิดขึ้นกับการปรับปรุง
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
แก้ไขปัญหานี้
(http://go.microsoft.com/fwlink/?LinkId=260622)
ตัวแก้ไขปัญหาของ Microsoft Update (เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น)ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
เมื่อต้องการเริ่มตัวแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
- เปิดตัวแก้ไขปัญหา Windows Update ด้วยการปัดนิ้วเข้ามาจากขอบด้านขวาของหน้าจอ การแตะที่ ค้นหา (หรือหากคุณใช้เมาส์ ให้ชี้ไปที่มุมด้านขวาบนของหน้าจอ เลื่อนตัวชี้เมาส์ลง แล้วคลิก ค้นหา)
- ในค้นหา ให้พิมพ์ Troubleshooting
- จากนั้น ให้แตะหรือคลิกที่ การตั้งค่า แล้วแตะหรือคลิก การแก้ไขปัญหา
- ภายใต้ ระบบและการรักษาความปลอดภัย ให้แตะหรือคลิก แก้ไขปัญหาด้วย Windows Update
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
Windows 7
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
รีเซ็ตคอมโพเนนต์ของ Windows Update จากนั้นลองปรับปรุงคอมพิวเตอร์ของคุณ
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
เมื่อต้องการรีเซ็ตคอมโพเนนต์ของ Windows Update โดยอัตโนมัติ คลิกปุ่มหรือลิงก์
Fix it คลิก
เรียกใช้ ในกล่องโต้ตอบ
ดาวน์โหลดแฟ้ม แล้วทำตามขั้นตอนในตัวช่วยสร้างแก้ไขปัญหา
หมายเหตุ โซลูชันแก้ไขปัญหามีสองโหมด: Default และ Aggressive คุณควรเรียกใช้โซลูชันแก้ไขปัญหาในโหมด Default และตรวจสอบว่าโหมดนี้แก้ไขปัญหาของคุณใน Windows Update หรือไม่ก่อนเรียกใช้ในโหมด Aggressive
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
แก้ไขปัญหานี้
(http://download.microsoft.com/download/6/C/9/6C970550-32AB-4235-9CDD-7FC9DD848BBB/windowsupdate.diagcab)
ตัวแก้ไขปัญหาของ Windows Update (เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น)ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
หมายเหตุ ตัวช่วยสร้างนี้อาจแสดงเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่การแก้ไขอัตโนมัติทำงานได้กับ Windows รุ่นภาษาอื่นด้วย
หมายเหตุ หากคุณไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ที่มีปัญหา ให้บันทึกโซลูชันแก้ไขปัญหาลงในแฟลชไดรฟ์หรือซีดีหรือดีวีดี แล้วเรียกใช้โซลูชันบนคอมพิวเตอร์ที่มีปัญหา
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีตั้งค่าคอมโพเนนต์ของ Windows Update ใหม่ ไปที่เว็บไซต์ Microsoft ต่อไปนี้:
971058
(http://support.microsoft.com/kb/971058/th)
ฉันจะรีเซ็ตคอมโพเนนต์ของ Windows Update ได้อย่างไร
หาก Windows Update ยังคงเสนอการปรับปรุงเดียวกันอีก ให้ไปที่ส่วน
ตรวจสอบว่าการปรับปรุงถูกติดตั้งแล้วหรือไม่ แล้วใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งในส่วน "
แก้ไขปัญหา"
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
ตรวจสอบว่าการปรับปรุงได้รับการติดตั้งแล้วหรือไม่
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
เมื่อต้องการดูว่าการปรับปรุงได้รับการติดตั้งแล้วหรือไม่ ให้ใช้วิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้
วิธีที่ 1: ตรวจสอบประวัติการติดตั้งเมื่อต้องการตรวจทานประวัติการติดตั้ง ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- คลิก Start ชี้ไปที่ All Programs แล้วคลิก Windows Update หรือ Microsoft Update
- คลิก ดูประวัติการปรับปรุง
- ค้นหารายการการปรับปรุงล่าสุด
- หากสถานะรายการแสดงเป็น สำเร็จ ในคอลัมน์ สถานะ แสดงว่าการปรับปรุงถูกติดตั้งแล้ว หากสถานะแสดงเป็น ค้างอยู่ ในคอลัมน์ สถานะ แสดงว่าการปรับปรุงยังไม่ได้รับการติดตั้ง
วิธีที่ 2: ตรวจสอบแฟ้มบันทึกการติดตั้งหมายเหตุ- วิธีการนี้ใช้ได้กับการปรับปรุงสำหรับ Windows เท่านั้น การปรับปรุงสำหรับ Office จะไม่สร้างแฟ้มบันทึกนี้
- คุณต้องทราบหมายเลขบทความในฐานความรู้ (KB) ที่ตรงกับการปรับปรุง หากคุณไม่ทราบหมายเลขการปรับปรุงในฐานความรู้ (KB) ที่คุณพยายามติดตั้ง คุณสามารถดูหมายเลขในรายการการปรับปรุงที่มีอยู่สำหรับการติดตั้งใน Windows Update
หลังจากที่คุณมีหมายเลขในฐานความรู้ (KB) แล้ว ให้คลิก
Start คลิก
Run พิมพ์
%Windir%\KBnnnnnn.log แล้วกด Enter
หมายเหตุ ในคำสั่งนี้
nnnnnn แทนหมายเลขบทความในฐานความรู้ที่เกี่ยวกับการปรับปรุง
หากมีรายการดังในตัวอย่างแสดงอยู่ในแฟ้มบันทึก แสดงว่าการปรับปรุงได้รับการติดตั้งแล้ว
หมายเหตุ ในรายการตัวอย่างนี้ x แทนค่าตัวเลข
RebootNecessary = x,WizardInput = x, DontReboot = x, ForceRestart = x
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
วิธีแก้ไขปัญหาหากการปรับปรุงยังไม่ได้รับการติดตั้ง
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
ถ้าไอคอนสีแดงหรือข้อความแสดงข้อผิดพลาดปรากฏอยู่ข้างการปรับปรุงบนเว็บไซต์การปรับปรุง ให้ไปที่เว็บไซต์ต่อไปนี้ของ Microsoft เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีแก้ไขปัญหา:
906602
(http://support.microsoft.com/kb/906602/th/
)
วิธีแก้ไขปัญหาการติดตั้ง Windows Update, Microsoft Update และ Windows Server Update Services
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
วิธีแก้ไขปัญหาหากการปรับปรุงได้รับการติดตั้งแล้ว
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
วิธีที่ 1: ใช้ Microsoft Safety Scanner สแกนคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อตรวจหาไวรัสและซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายเมื่อต้องการสแกนคอมพิวเตอร์ของคุณโดยใช้ Microsoft Safety Scanner ให้คลิกลิงก์ต่อไปนี้:
http://www.microsoft.com/security/scanner/th-th/
(http://www.microsoft.com/security/scanner/th-th/)
วิธีที่ 2: ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันสปายแวร์สแกนคอมพิวเตอร์ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันสปายแวร์และซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสเพื่อสแกนคอมพิวเตอร์
คุณสามารถดูรายชื่อผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสของบริษัทอื่นได้ที่
http://www.microsoft.com/windows/antivirus-partners/windows-7.aspx
(http://www.microsoft.com/windows/antivirus-partners/windows-7.aspx)
เมื่อต้องการดาวน์โหลดและติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส Microsoft Security Essentials ให้ไปที่
http://www.microsoft.com/en-us/security_essentials/default.aspxc
(http://windows.microsoft.com/th-th/windows/products/security-essentials)
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
ยุบรูปภาพนี้ขยายรูปภาพนี้
976982
(http://support.microsoft.com/kb/976982/th)
มีรหัสข้อผิดพลาด “0x80070643” หรือ “0x643” เกิดขึ้นเมื่อคุณติดตั้งโปรแกรมปรับปรุง .NET Framework
หมายเลขบทความ (Article ID): 910339 - รีวิวครั้งสุดท้าย: 8 กุมภาพันธ์ 2556 - Revision: 9.0
ใช้กับ
- Microsoft Update
- Microsoft Windows Update
- Windows Defender
kbdefenderrtwyes kbdefenderrtwswept kbtshoot kbprb kbcip KB910339 |